วันจันทร์ที่ 29 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
มิกกี้เมาส์
เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเคยดูการ์ตูน มิกกี้ เมาส์ (Mickey Mouse) มาตั้งแต่เด็ก ๆ จนเป็นเสมือนเพื่อนทางจินตนาการแสนรัก แต่ทราบกันไหมว่าเจ้าหนูชื่อดังระดับโลกนี้ อายุอานามปาเข้าไปถึง 82 ปีแล้ว เรียกได้ว่าเป็น คุณปู่ มิกกี้ เมาส์ ของหนูน้อยหลายล้านคนทั่วโลก และเนื่องในวันเกิดของ มิกกี้ เมาส์ 18 พฤศจิกายน เราจะพาเพื่อน ๆ ไปย้อนรำลึกถึงการ์ตูนสุดคลาสสิคอย่าง "มิกกี้ เมาส์" กันค่ะ
ยุคแรก[แก้]
ภาพล้อฝีมือขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต (เปล่ง ไตรปิ่น) นักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองคนแรกของไทย
ปกหนังสือการ์ตูนเล่มละบาทของสำนักพิมพ์บางกอกสาส์นวาดโดย ชายชล ชีวิน
ปกการ์ตูนนิยายภาพเรื่อง "อวสานอินทรีแดง" จัดจำหน่ายโดย สำนักพิมพ์บรรลือสาส์น วาดโดย ราชันย์ (ภาพจากนิตยสาร "รู้รอบตัว" ฉบับที่ 50 มีนาคม 2533)
ประวัติศาสตร์การ์ตูนไทยเริ่มจากการเข้ามาของวิทยาการเขียนภาพแบบตะวันตก ซึ่งขรัวอินโข่ง จิตรกรในสมัยรัชกาลที่ 3 - รัชกาลที่ 4 แห่งกรุงรัตนโกสินทร์ ได้นำมาใช้เป็นคนแรกในการเขียนภาพจิตรกรรมฝาผนังลักษณะเหมือนจริง หลายคนจึงถือกันว่าท่านเป็นนักเขียนการ์ตูนไทยคนแรกต่อมาในรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 6 ภาพล้อหรือการ์ตูนในเมืองไทยเป็นที่นิยมแพร่หลายมากขึ้น โดยเฉพาะแนวการ์ตูนล้อการเมือง ยุคนี้ได้มีนักเขียนการ์ตูนล้อการเมืองคนแรกเกิดขึ้น คือ ขุนปฏิภาคพิมพ์ลิขิต (เปล่ง ไตรปิ่น) แม้รัชกาลที่ 6 เองก็โปรดการ์ตูนลักษณะดังกล่าว ดังปรากฏหลักฐานว่า มีภาพวาดฝีพระหัตถ์ล้อเหล่าเสนาบดีและข้าราชบริพารในพระองค์อยู่เสมอๆ ตีพิมพ์ลงหนังสือพิมพ์ดุสิตสมัย
ถึงสมัยรัชกาลที่ 7 วงการการ์ตูนซบเซาลงเนื่องจากพิษเศรษฐกิจ จนถึง พ.ศ. 2475 ประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ทำให้นักเขียนการ์ตูนมีเสรีภาพในการเสนอความคิดเห็นมากขึ้น จึงมีนักเขียนการ์ตูนดังๆ เกิดขึ้นในยุคนี้หลายคน อาทิ สวัสดิ์ จุฑะรพ ผู้นำเรื่องสังข์ทองมาวาดเป็นการ์ตูนเรื่องยาวเรื่องแรกของประเทศไทย ลงในหนังสือพิมพ์สยามราษฎร์ และเจ้าของตัวการ์ตูน "ขุนหมื่น" ซึ่งดัดแปลงมาจากป๊อบอายและมิกกี้ เมาส์ โดยเป็นตัวตลกแทรกอยู่ในการ์ตูนจักรๆ วงศ์ๆ เรื่องต่างๆ ต่อมานักเขียนการ์ตูนคนอื่นๆ จึงสร้างการ์ตูนตัวหลักของตัวเองขึ้นมาบ้าง นอกจากนี้ยังมีนักเขียนการ์ตูนแนวเดียวกับ สวัสดิ์ จุฑะรพ คนอื่นๆ เช่น วิตต์ สุทธิเสถียร จำนงค์ รอดอริ ส่วนนักเขียนในยุคเดียวกันแต่วาดคนละแนวก็มีเช่นกัน เป็นต้นว่า ฉันท์ สุวรรณบุณย์ ผู้บุกเบิกการ์ตูนสำหรับเด็กเป็นคนแรกของประเทศไทย
ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 การ์ตูนไทยซบเซาลงจากภัยสงครามเช่นเดียวกับวงการวรรณกรรม เมื่อสิ้นสงครามแล้ว วงการการ์ตูนไทยจึงฟื้นตัวอีกครั้ง ในยุคนี้ปรากฏนักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียงหลายคน เช่น ประยูร จรรยาวงษ์ นักเขียนการ์ตูนเจ้าของฉายา "ราชาการ์ตูนไทย" ซึ่งวาดทั้งการ์ตูนตลกและการ์ตูนการเมือง ในยุคเดียวกันนี้ก็มีนักวาดภาพประกอบผู้โด่งดังซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วไปคือ เหม เวชกร ซึ่งน้อยคนนักจะรู้ว่าท่านก็วาดการ์ตูนด้วยเหมือนกัน พ.ศ. 2495 ได้มีการ์ตูนสำหรับเด็กเกิดขึ้นเป็นเล่มแรก คือ หนังสือการ์ตูน "ตุ๊กตา" อันเป็นผลงานของพิมล กาฬสีห์ มีตัวละครหลักสี่คน คือ หนูไก่ หนูนิด หนูหน่อย และหนูแจ๋ว และประสบความสำเร็จอย่างสูง (เลิกออกประมาณ พ.ศ. 2530 เนื่องจากพิมล กาฬสีห์ เสียชีวิต) หลังจากนั้นจึงมีการ์ตูนสำหรับเด็กออกมาอีกหลายเล่ม เช่น การ์ตูน "หนูจ๋า" ของ จุ๋มจิ๋ม (จำนูญ เล็กสมทิศ) ซึ่งเริ่มวางแผงเล่มแรกเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2500และที่ได้รับความนิยมตามมาอีกเล่มก็คือการ์ตูน "เบบี้" ของ วัฒนา เพ็ชรสุวรรณ ซึ่งเริ่มวางแผงฉบับแรกเมื่อ พ.ศ. 2504 ตัวการ์ตูนหลักของเบบี้นั้นมีมากถึงสิบกว่าคน บางตัวก็มีการนำไปแสดงหนังโฆษณาก็มี คือคุณโฉลงและคุณเต๋ว หนังสือทั้งสองเล่มนี้อยู่ในเครือสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น และยังคงออกมาต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้แล้วก็ยังมีหนังสือการ์ตูนสำหรับเด็กที่แฝงสาระมากอีกเล่มหนึ่งก็คือ ชัยพฤกษ์การ์ตูน ซึ่งมี ทาร์ซานกับเจ้าจุ่น เป็นตัวชูโรง ผู้วาดก็คือ รงค์ นักเขียนการ์ตูนนิยายภาพที่สร้างชื่อเสียงในชัยพฤกษ์การ์ตูน อย่างเช่น เตรียม ชาชุมพร ที่เขียนเรื่อง "เพื่อน" โอม รัชเวทย์ สมชาย ปานประชา พล พิทยกุล เฉลิม อัคภู ปัจจุบันหนังสือเล่มนี้ได้ปิดตัวไปแล้วนักเขียนคนอื่นที่มีชื่อเสียงร่วมสมัยได้แก่ พ.บางพลี (เจ้าของผลงานเรื่อง อัศวินสายฟ้า และศรีธนญชัย), ราช เลอสรวง, จุก เบี้ยวสกุล ฯลฯ ซึ่งในยุคนี้ส่วนมากจะนิยมวาดการ์ตูนเรื่อง บางเรื่องยาวเป็นร้อยๆ หน้า นับว่าเป็นยุคทองของการ์ตูนเรื่องทีเดียว
มายุคต่อเนื่องจาก ชัยพฤกษ์การ์ตูน กลุ่มนักการ์ตูนแนวหน้า 5 ท่าน มารวมกลุ่มกันใหม่ชื่อว่า กลุ่มเบญจรงค์ เปิดเป็นสำนักงานเล็กแถวสีแยกเสือป่า ถนนเจริญกรุง โดยมี เตรียม ชาชุมพร, โอม รัชเวทย์, สมชาย ปานประชา, พล พิทยกุล, เฉลิม อัคภู ทำหนังสือการ์ตูนรายเดือน ขึ้นมา ชื่อ "เพื่อนการ์ตูน" อยู่ในตลาดได้พักใหญ่ก็ปิดตัวลง ในเวลาไล่เลี่ยกันนั้น ก็มีกล่มทำงานเล็กๆกลุ่มหนึ่ง ซึ่งห้องข้างๆของ กลุ่มเบญจรงค์ ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นสำนักพิมพ์คุณภาพผลิตหนังสือสำหรับเด็กมากมายนั่นคือสำนักพิมพ์ห้องเรียนโดยคนคุณภาพอย่าง คุณศิวโรจน์, คุณเล็ก เป็นกำลังสำคัญตั้งแต่เริ่มต้นยุคที่เงียบหาย
การ์ตูนไทยยังแอบทำหน้าที่เงียบๆ ตามซอกหลืบ เป็นการ์ตูนราคาถูกที่พอให้ผู้อ่านหาซื้อได้โดยเบียดเบียนเงินในกระเป๋าให้น้อยที่สุด อาจจะลดคุณภาพลงบ้างตามความจำเป็น นี่คือยุคของ "การ์ตูนเล่มละบาท" โดยเริ่มเกิดขึนครั้งแรกโดยสำนักพิมพ์สากล ต่อมาหลายสำนักพิมพ์ก็ทำตามออกมา สำนักพิมพ์สุภา, บางกอกสาส์น, สำนักพิมพ์สามดาว เป็นต้น นับว่าเป็นช่วงเวลาที่ยาวนานที่การ์ตูนทำหน้าที่เพื่อต่อผ่านไปยังการ์ตูนยุคต่อมา แม้กระนั้นนักเขียนการ์ตูนยุคนั้นก็ฝากฝีมือไว้ได้อย่างยอดเยี่ยมหลายท่านด้วยก้น เช่น นักรบ รุ่งแก้ว, รุ่ง เจ้าเก่า, ชายชล ชีวิน, แมวเหมียว, ราตรี, น้อย ดาวพระศุกร์, ดาวเหนือ, เพลิน, เทพบุตร, มารุต เสกสิทธิ์, นอม เป็นต้น โดยบางครั้งก็ได้นักเขียนการ์ตูนที่มีชื่อเสียงในยุคก่อนหน้านั้นช่วยเขียนปกให้ เพื่อเสริมคุณภาพขึ้นอีกระดับหนึ่ง เช่น จุก เบี้ยวสกุล เป็นเหตุทำให้การ์ตูนเล่มละบาท ได้รับความนิยมขึ้นเป็นอย่างมากในยุคหนึ่ง จนสามารถทำให้คำว่า"การ์ตูนเล่มละบาท" กลายเป็นตำนาน เป็นชื่อเฉพาะ และเป็นสัญลักษณ์ ที่เรียกกันมาจนถึงทุกวันนี้ เป็นสไตล์การ์ตูนที่มีลักษณะเฉพาะสำนักพิมพ์ที่เป็นแหล่งรวมของนักเขียนการ์ตูน มีมากมาย เช่น บางกอกสาส์น, ชนะชัย การ์ตูนเล่มละบาทนี้เป็นที่ฝึกฝนฝีมือของนักเขียนการ์ตูนหน้าใหม่ นักเรียนศิลปะที่ต้องการหารายได้ในระหว่างเรียนหนังสือ ปัจจุบันหลายท่านกลายเป็นนักเขียนการ์ตูนคุณภาพระดับแนวหน้าของเมืองไทยแนวเรื่องของการ์ตุนเล่มละบาท มีทั้งเรื่องชีวิต, เรื่องผี, เรื่องตลก, นิทาน, เซ็กซ์ โดยเฉพาะเรื่อง "ผี" เป็นเรื่องที่ได้รับความนิยมอย่างมากของผู้อ่าน เป็นความตื่นเต้นแบบง่ายๆ ที่ใกล้ชิดชาวบ้านมากที่สุด
ยุคปัจจุบัน[แก้]
ปัจจุบัน การ์ตูนไทยที่ถือได้ว่าครองใจคนทุกเพศทุกวัยเป็นอันดับหนึ่งของประเทศในเวลานี้ก็คือ ขายหัวเราะ-มหาสนุก ในเครือสำนักพิมพ์บรรลือสาส์น ซึ่งแนวทางการ์ตูนจะเป็นการ์ตูนประเภทการ์ตูนแก๊กและการ์ตูนเรื่องสั้นจบในตอนเป็นส่วนใหญ่ ขณะเดียวกันก็เริ่มมีการพัฒนาการ์ตูนไทยรูปแบบคอมมิคขึ้น จากกลุ่มคนที่มีประสบการณ์การอ่านการ์ตูนแนวมังงะของญี่ปุ่น เท่าที่ปรากฏในเวลานี้ สำนักพิมพ์ที่ตีพิมพ์การ์ตูนไทยแนวดังกล่าวได้แก่ สำนักพิมพ์สยามอินเตอร์คอมิกส์ สำนักพิมพ์บุรพัฒน์ และสำนักพิมพ์เนชั่นเอ็ดดูเทนเมนท์ ตลาดของการ์ตูนกลุ่มนี้ส่วนใหญ่เน้นที่กลุ่มวัยรุ่น ในขณะที่การ์ตูนนิยายภาพแบบดั้งเดิมยังคงมีการผลิตอยู่เรื่อยๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะอิงกับตลาดระดับล่าง เช่นหนังสือเล่มละบาท ซึ่งปัจจุบันปรับตัวมาขายในราคาเล่มละห้าบาทการ์ตูนในเมืองไทยเริ่มพัฒนาต่อเนือง หลังจากการ์ตูนแนวญี่ปุ่นเข้ามากระตุ้นตลาดการ์ตูนไทยในช่วงหลายปี่ที่ผ่าน นักวาดการ์ตูนที่เป็นเด็กรุ่นไหม่ได้ซึมซับการ์ตูนแนวมังงะจนเกิดการ์ตูนแนวนี้ขึ้นมาอย่างแพร่หลายในตลาด มีหลายสำนักพิมพ์ที่เป็นหัวหอกสำคัญทำหนังสือการ์ตูนไทยในแนวมังงะ เช่นไทยคอมมิก ของวิบูลย์กิจ การตอบรับของผู้อ่านเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จึงเกิดเหตุการณ์การ์ตูนแนวมังงะฟรีเวอร์ เกิดการ์ตูนความรู้ในรูปแบบการ์ตูนภาพเกิดขึ้น เช่นเรื่อง รามเกียรติ ซึ่งประสบความสำเร็จขายดีถล่มทลาย จนมีหนังสือในแนวนี้ออกมาเต็มตลาดอย่างที่เห็นในปัจจุบัน กระตุ้นให้เกิดนักวาดการ์ตูนมากมายซึ่งเป็นผลดีต่อวงการเป็นอย่างมาก
อีกช่วงของการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของการ์ตูนไทย คือการ์ตูนที่ไม่เป็นแนวตลาดซึ่งพัฒนาแยกออกจากการ์ตูนแนวมังงะอีกที มีลักษณะการออกแบบมีความเป็นเฉพาะมากขึ้น แนงเรื่องก็เฉพาะเจาะจงมากขึ้น กำลังได้รับความนิยมของคนอ่านขึ้นเรื่อยๆ สังเกตได้จากเกิดหนังสือการ์ตูนรายเดือนวางตลาด เช่น หนังสือชื่อ"Lets" ในกลุ่มของสตาร์พิค และกำลังจะออกมาอีกหลายๆเล่มในขณะที่การ์ตูนญี่ปุ่นเข้ามาในไทยก็ได้มีชนกลุ่มหนึ่งอยากผลิดการ์ตูนขึ้นเองบ้างแต่ก็มีลายเส้นป็นเอกลักษ์เฉพาะตัวจะเห็นได้จากพวกที่วางขายของ hand made ตามถนนแต่บางพวกก็ส่งผลงานเข้าสำนักพิมพ์ที่อยู่ในไทยก็มี เช่น สำนักพิมพ์ NED สำนักพิมพ์ จิณนา สตูดิโอ สำนักพิมพ์บงกช พับลิชชิ่ง ก็มี ปัจจุบันมีการสอนวาดรูปการ์ตูนชนิดนี้มากขึ้น โดยสื่ออินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาฝีมือโดยอาศัยแลกภาพกันติชมวิจารณ์ผ่านเว็บบอร์ด หรือสร้างเว็บไซต์แสดงผลงานกันในอินเทอร์เน็ต อีกทั้งงานประจำปีของการ์ตูนปัจจุบันมีมากมายหลากหลายไม่แต่เฉพาะในกรุงเทพ ยังขยายไปตามต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ขอนแก่น
มังงะคือการ์ตูนที่ชาวญี่ปุ่นพัฒนาขึ้นในช่วงสมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 โดยญี่ปุ่นที่แพ้สงครามได้รับอิทธพลจากการ์ตูนของอเมริกาที่นำเข้ามาพร้อมกับอเมริกาในสมัยนั้นต่อมา เท็ตสึกะ โอซามุ เป็นคนแรกที่นำการเล่าเรื่องคล้ายกับภาพยนตร์มาใช้ในนิยายภาพจนเกิดสไตล์การเล่าเรื่องที่สมจริงคล้ายภาพยนตร์ ชาวญี่ปุ่นจึงใช้วิธีการเล่าเรื่องลักษณะนี้จะพัฒนามาเป็นมังงะในปัจจุบันแนวมังงะในไทย คือ การ์ตูนไทยที่ได้รับอิทธิพลการวาด การเล่าเรื่อง การออกแบบตัวละครแบบมังงะดังที่อธิบายไปข้างต้น[1]
ภาพยนตร์การ์ตูนไทย[แก้]
สุดสาคร ถือได้ว่าเป็น ภาพยนตร์การ์ตูนไทยเรื่องแรก เกิดขึ้นหลังจากสงครามโลก ครั้งที่ 2 สงบไปไม่นาน ก่อนที่จะมี ก้านกล้วย, ประวัติพระพุทธเจ้า และ นาค ดังที่รู้จักกันในปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์ ได้กล่าวถึงแอนิเมชันของไทยว่า ยังไม่ได้รับการแก้ไขในเรื่องของการเคลื่อนไหวที่ค่อนข้างเร็วเกินไปในฉากแอ็คชั่น[2]
การตอบรับ[แก้]
เดิมที หลายคนต่างมีความเห็นว่าวงการการ์ตูนไทยอาจไปไม่รอด แต่ในปัจจุบัน การ์ตูนไทยได้เป็นสื่อที่ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวาง รวมทั้ง มีนักเขียนการ์ตูนชาวไทยหลายท่านที่ประสบความสำเร็จโดยสามารถสร้างชื่อเสียงในต่างแดน[3] ครั้งหนึ่ง วีรวิชญ์ ธนพงศ์ทวีวุฒิ ซึ่งเป็นนักวาดการ์ตูนไทยเจ้าของนามปากกา ปีกนกบูรพา ได้ให้สัมภาษณ์กับทางมติชนว่า ปัจจุบัน ภาพลักษณ์ของวงการการ์ตูนไทยดีกว่าที่มีอยู่เดิมเป็นอย่างมาก โดยเริ่มได้รับความนิยมตั้งแต่ช่วง พ.ศ. 2553 - 2554 ซึ่งมีการจ้างงานและจัดจำหน่ายเพิ่มขึ้น ซึ่งแตกต่างจากสมัยก่อนที่ภาพพจน์ของนักเขียนการ์ตูนไม่ค่อยดีเท่าใดนัก ก่อนที่กลุ่มนักเขียนการ์ตูนได้ร่วมกันช่วยยกระดับให้ดีขึ้นในเวลาต่อมา[4]
อ้างอิง[แก้]
- นิรวาณ คุระทอง. (2553). ประวัติย่อการ์ตูนไทย. สำนักพิมพ์ LET'S Comic. ISBN 9786169012863
- ↑ นิตยสาร รู้รอบตัว ฉบับที่ 4 ประจำเดือนมีนาคม 2530
- ↑ พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์. รู้แล้ว! แอนิเมชันไทย...ปัญหาใหญ่อยู่ที่การเคลื่อนไหว?. คมชัดลึก. ปีที่ 11 ฉบับที่ 4007. วันอังคารที่ 9 ตุลาคม พ.ศ. 2555. ISSN 16851390. หน้า 20
- ↑ คลื่นอันร้อนแรง 'การ์ตูนไทยยุคใหม่'
- ↑ กฤตยา เชื่อมวราศาสตร์. หนังสือพิมพ์มติชนรายวัน. ปีที่ 34 ฉบับที่ 12335. วันอาทิตย์ที่ 18 ธันวาคม 2554. หน้า 14
วันอาทิตย์ที่ 28 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
การ์ตูนเบิดร์แลนด์
เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ (อังกฤษ: Bird : Flying With Byrd) เป็นการ์ตูนทีวีแอนิเมชัน 3 มิติ จากประเทศไทย ผลิตโดย บริษัท เชลล์ฮัทเอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด ซึ่งได้ประสบความสำเร็จจากการ์ตูนเชลล์ดอน ที่ได้ทำการออกอากาศไปกว่า 100 ประเทศทั่วโลก[1] เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ ออกอากาศทุกวันเสาร์ เวลา 19.30 - 19.45 น. ทางสถานีวิทยุโทรทัศน์ไทยทีวีสีช่อง 3 ตั้งแต่วันที่ 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554[2]
เบิร์ดแลนด์ แดนมหัศจรรย์ เป็นแอนิเมชันแฝงความรู้แก่ผู้ชมทุกวัย ซึ่งได้รับความสนใจจากทั้งในและต่างประเทศ[3] และมีความเป็นไปได้ ถึงการจัดทำของที่ระลึกที่เกี่ยวข้อง ตลอดจนการติดต่อด้านลิขสิทธิ์เพื่อเผยแพร่ไปต่างประเทศในโอกาสต่อมา[2]
เนื้อหา
[ซ่อน]เนื้อเรื่อง[แก้]
ในขณะที่เด็กๆจากทวีปต่างๆ นั้น กำลังเรียนดนตรีอยู่ในห้องดนตรีที่น่าเบื่อ พวกเขาได้มองเห็นเบิร์ดแลนด์ และพี่เบิร์ดผู้ที่เป็นเสมือนไอดอล ของพวกเขาผ่านทาง Blooberry พวกเขาจึงเกิดจินตนาการและนำพวกเขาไปสู่เบิร์ดแลนด์ และการผจญภัยของพวกเขากับพี่เบิร์ดก็ได้เริ่มขึ้น แต่ละตอนพี่เบิร์ดและพวกเขาจะเดินทางท่องเที่ยวไปยังสถานที่ต่างๆเพื่อจะเก็บรวบรวมตัวโน้ตดนตรีที่หายไปมาให้ครบ เพื่อทำให้โลกเกิดสันติภาพขึ้น ซึ่งการผจญภัยของพวกเขานั้นต้องผ่านอุปสรรคต่างๆนานา โดยเฉพาะเจ้าพวกเบลตันซาวด์โน้ตที่จะแย่งชิงเอาตัวโน้ตมาให้ได้ เพราะเขาเกลียดในเสียงดนตรีหรือโน้ตดนตรีที่ถูกต้อง[4]
ตัวละคร[แก้]
ตัวละครหลัก[2][แก้]
พี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์)[แก้]
- ให้เสียงโดย : ธงไชย แมคอินไตย์
พี่เบิร์ด (ธงไชย แมคอินไตย์) (Bird "Thongchai McIntyre") หนุ่มรูปหล่อ เก่งในด้านการร้องเพลง ทั้งการเต้นและเครื่องดนตรีทั้งหมด อยู่ในเมือง Byrdland พี่เบิร์ดเป็นเสมือนทั้ง Guardian Angel, ครู, เพื่อน, นักวิทยาศาสตร์, ผู้คอยดูแลและให้ความบันเทิงแก่เด็กๆ พี่เบิร์ดเป็นคนที่ฉลาด สนุกสนาน ร่าเริง และขี้เล่นแต่สิ่งที่สำคัญเหนือสิ่งใดคือพี่เบิร์ดมีนิสัยชอบช่วยเหลือผู้อื่น เป็นผู้รอบรู้ในด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ และการทำอาหาร
เดเนียล่า[แก้]
- ให้เสียงโดย : วิชญาณี เปียกลิ่น (แก้ม เดอะสตาร์)
เดเนียล่า (Daniela) เป็นเด็กสาวชาวลาติน มีความน่ารัก แล้วยังเฉลียวฉลาด ยังเป็นคนสนใจในเรื่องภาษาต่างๆ ที่เขาชอบหรือไม่ชอบก็ตามที และเป็นคนที่ความสนใจในเรื่องภาษาต่างๆ แต่ไม่ชอบใช้ความน่ารักเป็นจุดสนใจของเด็กๆ ผู้ชาย เธอมีความคิดว่าตนเองสามารถทำอะไรได้เหมือนกับที่ผู้ชายทำได้ แต่ลึกๆ แล้วในใจก็ยังชอบผู้ชาย เธอเปรียบเสมือนพี่ใหญ่ หรือแม่ของกลุ่มที่คอยให้ความช่วยเหลือเพื่อนๆ มีความสามารถในการเล่นกลองเซ็ทและPercussion
เดอร์ริก[แก้]
- ให้เสียงโดย : ปองกูล สืบซึ้ง (ป๊อบ แคลอรี่ส์ บลาห์ บลาห์)
เดอร์ริก (Derrick) เป็นเด็กหนุ่มแอฟริกัน มีลักษณะท้วม ๆ ผมสีดำ ตาสีดำ เป็นคนเงียบขรึม มีความสามารถในเรื่องวิทยาศาสตร์ เป็นคนที่เงียบขรึมกว่าเจมี่ เพราะโตมาจากพ่อแม่ที่กำลังจะแยกทางกัน เขาชอบเล่นของไฮเทคและมีความสามารถในเรื่องวิทยาศาสตร์ เขาเป็นคนที่คิดอะไรมีเหตุมีผล และมักชอบแข่งขันกับเจมี่ แต่เป็นลักษณะการแข่งขันแบบเพื่อน พี่ และน้อง เดอร์ริกพก Blooberry ที่มีขนาดค่อนข้างใหญ่ติดตัวตลอดเวลาเพื่อใชในการเก็บตัวโน้ตตลอดการทำภารกิจให้พี่เบิร์ด เขามีความสามารถในการเล่นกีต้าร์เบส
ฮุน[แก้]
- ให้เสียงโดย : ผลิตโชค อายนบุตร
ฮุน (Hyun) เด็กหนุ่มหน้าตาดี จากเกาหลีนักฟลูต เป็นคนที่ฉลาดที่สุดในกลุ่ม แต่ดื้อ ชอบพยายามหาวิธีง่าย ๆ มาแก้ปัญหาในสถานการณ์ฉุกละหุก เขายังชอบชอบศึกษาประวัติของสถานที่ต่างๆ ที่ตนเองได้ไปท่องเที่ยวมา เขาเป็นเด็กที่รักสนุก และเป็นตัวตลกของกลุ่ม ช่างคิด ช่างวางแผน เขาชอบกินขนมตลอดเวลา และมีความสามารถในการเล่นขลุ่ยและระนาด
เจมี่[แก้]
- ให้เสียงโดย : ชินวุฒ อินทรคูสิน
เจมี่ (Jamie) เป็นเด็กหนุ่มอเมริกัน ผมสีทอง ตาสีฟ้า , ชอบการเล่นวิดีโอเกมส์ และมีความสามารถในเรื่องคณิตศาสตร์ ชอบเล่น Skateboard และกีฬาต่างๆ ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญตลอดเวลา เพราะถูกครอบครัวเลี้ยงดูมาอย่างดี และยังคาดหวังว่าเจมี่จะต้องเป็นที่ 1 เจมี่แอบชอบลิลลี่ เขามักจะสนใจในสิ่งใหม่ๆ และชอบสนุกกับเพื่อนๆ เขามีความสามารถในการเล่นเปียโนและคีย์บอร์ด
ลิลลี่[แก้]
- ให้เสียงโดย : นาตาชา โจซีฟิน เบลค (ฟีฟี่ เบลค)
ลิลลี่ (Lily) เป็นเด็กสาวยุโรป มีความเฉลียวฉลาดและน่ารัก มักจะเอาใจใส่ในเรื่องทรวดทรง และสุขภาพเป็นอย่างยิ่ง เธอเป็นคนที่ระมัดระวังในเรื่องการรับประทานอาหารอย่างมาก เพราะเป็นเด็กที่เอาใจใส่ในเรื่องทรวดทรง และสุขภาพ ชอบในการเป็นจุดสนใจของเด็กๆ ผู้ชายที่ชอบกีฬาออกกำลังกายและเต้นรำ คิดในเรื่องของตนเองเป็นหลัก และมีความสามารถในการเล่นไวโอลิน
ซอง[แก้]
- ให้เสียงโดย : ชีรณัฐ ยูสานนท์
ซอง (Song) เป็นเด็กสาวจีน เป็นคนเงียบๆแต่เสียงไพเราะ ชอบการเต้นบัลเลต์และศิลปะการป้องกันตัว แต่เธอมีเสียงที่ไพเราะมาก เป็นเด็กใหม่ที่เข้ามาร่วมกลุ่มทีหลังตั้งแต่ตอน ชิงถ้วยโอลิมปิก เธอชอบการเต้นบัลเล่ต์ และศิลปะการป้องกันตัว เธอดูเหมือนเป็นเด็กขี้อาย แต่แท้ที่จริงแล้วเธอเป็นคนที่เข้มแข็งมาก นอกจากความสามารถในการร้องเพลงแล้ว เธอยังเล่น Stand-Up Bass และ Cello
สควอกกี้[แก้]
- ให้เสียงโดย : ปิยะวัฒน์ เข็มเพชร
สควอกกี้ (Squawky) เป็นนกแก้วตัวป่วนของกลุ่ม มักช่างพูด ช่างน่ารัก เป็นตัวละครที่ชอบทำอะไรแหวกแนวและชอบขัดคำสั่ง คอยช่วยเหลือพี่เบิร์ดเสมอ แต่มักคิดว่าตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในทุกๆ สิ่งโดยเฉพาะในเรื่องการร้องเพลง และชอบขี้โม้ในเรื่องประวัติของตัวเอง
รายชื่อตอน[แก้]
ซีซั่น 1[แก้]
ตอนที่ | ชื่อตอน | วันออกอากาศ |
---|---|---|
1 | ต้วโน้ตของมนุษย์ถ้ำ | 4 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
2 | เสียงระฆังจากแดนซากุระ | 5 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
3 | นกแก้วล้ำค่าแห่งสยาม | 11 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
4 | ไขปริศนาเลขศูนย์ | 12 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
5 | เครื่องดนตรีของชนเผ่า | 18 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
6 | ช่วงเวลาที่หายไป | 19 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
7 | ชิงถ้วยโอลิมปิก | 25 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
8 | เสียงกำเนิดของดนตรี | 26 มิถุนายน พ.ศ. 2554 |
9 | เสียงเรียกจากบ้านหลังหนึ่ง | 2 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
10 | หนังเงียบ | 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
11 | ต้นไม้ในฝัน | 10 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
12 | อดีตที่หายไป | 16 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
13 | กำเนิดคอมพิวเตอร์ | 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
14 | ของขวัญวันคริสต์มาส | 23 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
15 | เครื่องบิน พี่น้อง ตระกูลไรท์ | 30 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
16 | อัศวินโต๊ะเหลี่ยม | 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2554 |
17 | แสงย่อส่วน | 6 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
18 | อนาคตของหนังสือพิมพ์ | 7 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
19 | คาวบอยสาวเจ้าเสน่ห์ | 13 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
20 | วงดนตรีที่รัก | 14 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
21 | เปิดกรุมัมมี่โบราณ | 20 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
22 | ความรักของสควอกกี้ | 21 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
23 | ละครรักของนักปราชญ์ | 27 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
24 | หอคอยมังกรไฟ | 28 สิงหาคม พ.ศ. 2554 |
25 | ไปเที่ยวแคมป์กันดีกว่า | 3 กันยายน พ.ศ. 2554 |
26 | กำแพงพิทักษ์เมืองจีน | 4 กันยายน พ.ศ. 2554 |
เพลงประกอบ[แก้]
- ซีซั่น 1
- เบิร์ดแลนด์
- ซีซั่น 2
- ตามรอยพระราชา
- ซีซั่น 3
- ตอนพิเศษ "ส่งเสริมคุณค่าของวัฒนธรรมไทย โดยกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม"
- ขับร้อง
- เบิร์ดแลนด์ - รวมศิลปิน (ธงไชย แมคอินไตย์, ชินวุฒ อินทรคูสิน, ปองกูล สืบซึ้ง, ฟีฟี่ เบลค, วิชญาณี เปียกลิ่น, ผลิตโชค อายนบุตร และ ชีรณัฐ ยูสานนท์)
การตอบรับ
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)